ทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
ราคาทองคำซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี โดยตลาดโลหะปรับตัวขึ้นเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะผ่อนคลายความเข้มงวดนโยบายการเงินลงในปีนี้
ราคา สปอตทองคำ เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 1,666.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ที่ 1,675.03 ดอลลาร์ในช่วงเวลาสั้น ๆ ในขณะที่ ทองคำฟิวเจอร์ส ซื้อขายที่ 1,670.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์
ราคาทองคำแท่งพุ่งขึ้นเกือบ 1% ในวันพุธ และตอนนี้ขึ้นเป็นช่วงที่สามติดต่อกันแล้ว การเพิ่มขึ้นในขณะนี้ทำให้ทองคำถูกจับตามองว่าจะทะลุแนวต้านที่สำคัญครั้งต่อไปที่ 1,700 ดอลลาร์
ดัชนีดอลลาร์ ร่วงลง 0.1% ในวันพฤหัสบดีหลังจากร่วงลงมากกว่า 1% ในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะผลักดันให้เฟดปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในขนาดที่เล็กลงในปีนี้ และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน
ตอนนี้ค่าเงินดอลลาร์ซื้อขายในระดับที่อ่อนแอที่สุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน และอ่อนค่าลงเกือบ 5% จากระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีที่แตะในเดือนกันยายน
ในขณะที่ตลาดเดิมพันเกือบจะเป็นเอกฉันท์ว่าเฟดจะ เพิ่มอัตราดอกเบี้ยที่ 75 จุดพื้นฐาน ในเดือนพฤศจิกายนแต่มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐานในเดือนธันวาคมก็เพิ่มขึ้น
ขณะนี้เทรดเดอร์กำลังกำหนดราคาในโอกาสเกือบ 60% สำหรับการปรับขึ้น 50 จุดพื้นฐานในการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดในปีนี้
ความคาดหวังว่าเฟดจะลดขนาดดอกเบี้ยลงได้ช่วยลดแรงกดดันต่อราคาทองคำได้อย่างมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในปีนี้ทำให้ความต้องการทองคำลดลงอย่างมาก
ถึงกระนั้นแม้ว่าเฟดจะผ่อนปรณนโยบายการเงินลง แต่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะยังคงอยู่ในระดับสูงจนถึงอย่างน้อยปี 2024 ซึ่งจะยังคงส่งผลต่อราคาทองคำ
ในบรรดาโลหะอุตสาหกรรม ราคาทองแดงทรงตัวในวันพฤหัสบดีหลังจากพุ่งขึ้นกว่า 4% ในช่วงก่อนหน้า
ราคา ทองแดงฟิวเจอร์ส ซื้อขายที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 3.540 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ทองแดงเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยความอ่อนแอจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวในจีน แต่ยังได้รับแรงหนุนบวกจากแนวโน้มการขาดแคลนอุปทานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
อุปสงค์ทองแดงคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเมื่ออุปกรณ์ที่เกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าจะเป็นที่ต้องการในปีที่กำลังจะมาถึงนี้
ที่มา: investing.com
